MITSUBISHI E-CAR III
สลับบอดี้แค่ขุมพลัง 4G63-AUTO

LINE it!

     แม้ว่าค่ายมิตซูบิชิ จะพัฒนารถในตระกูลอีโวลูชั่นไปไกล  แต่นักเลงรถบ้านเราก็ยังตามไม่ทันเท่าที่เห็นมีเพียง EVOLUTION VIII  ที่มาขับโฉบเฉี่ยวอยู่บ้าง ทั้งนี้เพราะสนนราคาค่าตัวค่อนข้างสูง  จึงทำให้ต้องจับรถมิตซูบิชิ  แลนเซอร์มาดัดแปลงกัน  ซึ่งที่ผ่านมาจะแบ่งเป็นสเตปการแต่งเริ่มตั้งแต่ EVOI-III   EVO IV-VI  และEVO VII-IX โดยขึ้นอยู่กับโครงสร้างของรถแต่ละรุ่น ที่มีพื้นฐานเดียวกัน จึงสามารถทำออกได้เหมือนตัวจริง                


     แต่ถึงอย่างนั้นอาจมีบางคันที่ไม่ชอบเลียนแบบทั้งหมด  ซึ่งก็ไม่ต่างจากแลนเซอร์ อีคาร์  ที่เห็นอยู่นี้ โดยเปลี่ยนโฉมแค่ภายนอกให้ดูเท่  แต่ในส่วนภายในเล่นดุดันด้วยโรลบาร์ในสไตล์แข่ง พร้อมกับถอดชิ้นส่วนออกไปเพื่อลดน้ำหนัก  ในขณะที่ความแรงนั้นยังไม่มากพอ เพราะได้สลับเอาเครื่องที่เคยฝังอยู่รถอเนกประสงค์สเปควากอน ตัวนอก มาลงแทน จึงต้องปรับแต่งเฮดเดอร์เดินท่อไอเสียและปลายท่อใหญ่ของสำนักแต่ง SITT TURBO เพื่อเพิ่มอัตราเร่งให้ดียิ่งขึ้น 
     

แต่งครบเทียบได้กับ EVO III
ปิดฝาเคฟลาร์ลงล้อเท่ ENKEI  


     ในการจับเอาอีคาร์มาแต่งอีโว  3 ได้นั้น เพราะมีโครงสร้างตัวรถแบบเดียวกัน แค่จัดการสลับกันชนหน้าก็สามารถสร้างความเร้าใจได้ทันที   โดยกันชนหน้าเป็นชิ้นส่วนของ  EVO  III    ที่มาในแบบกระจังหน้าในตัวติดตะแกรง พร้อมช่องดักลมตรงกลางขนาดใหญ่ กับช่องด้านข้างทรงสี่เหลี่ยมมน  และลิ้นหน้าแบบแยกชิ้นมีช่องดักลม  ส่วนไฟหน้าเปลี่ยนใหม่เป็นแบบโคมเพชรให้ความแวววาว พร้อมใส่ไฟซีนอนเพื่อส่องได้ไกลและเพิ่มความสว่างให้มากขึ้น   



    เลยขึ้นมาที่ฝากระโปรงหน้าก็ท้าท้ายสายตาด้วยการตกแต่งใหม่ โดยสั่งทำเป็นแบบเคฟลาร์ทั้งบาน ซึ่งรูปทรงแบบเดียวกับ EVO 3  จึงมีช่องระบายความร้อนของเครื่องยนต์อยู่ 2 ช่องในแบบบานเกล็ด  ที่สำคัญช่วยลดน้ำหนัก แต่ให้ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น และในแบบเคฟลาร์ดำยังตัดกับสีขาวของรถเพิ่มความโดดเด่นมาแต่ไกล  ส่วนแก้มข้างสลับใหม่อวบขึ้นกว่าเดิมแถมติดไฟแก้มข้างสีส้มแบบเรียบ  (ของเดิมจะเป็นแบบนูน)  ซึ่งต้องคู่กับประตูทั้งสี่บานที่เป็นเอาของ EVO III ทั้งนี้เพื่อให้รับกันอย่างดี   





     ส่วนสเกิร์ตข้างก็ต้องแนบของแท้ที่ปั๊มตัวนูน EVOLUTION III   ขยับมาใส่ล้อแม็กของ  ENKEI  RACING    ขอบ 16 นิ้วกว้าง  7 นิ้ว ในแบบ 5  ก้านโค้งสีขาว คู่กับยางคุณภาพนอก  YOKOHAMA    รุ่น dB decibel    ขนาด 205 /50R16   แต่ที่หลังคาได้ยกมาทั้งบานในแบบมีซันรูฟสามารถปรับได้หลายระดับ  ทางด้านหลังก็ได้ปรับแต่งกันชนหลังให้เป็นไปตามแบบของอีโว 3  โดยใต้กันชนมีท่อไอเสียสแตนเลสโผล่โชว์ให้เห็นนั้นเป็นของ  SITT TURBO  และในส่วนของด้านหลังนั้นแน่นอนต้องยกฝากระโปรงหลังมาพร้อมกับสปอยเลอร์ทรงสูงแบบที่มีไฟเบรคดวงที่สาม  ถึงจะดูครบเต็มตัว  จึงเสริมให้มุมมองด้านท้ายของรถดูเข้าท่าแล้ว  


บล็อกเครื่อง 4G63 เกียร์ออโต้   
ใส่กรองเปลือยติดท่อครบสูตร  


     เมื่อลงทุนแต่งภายนอกแล้วก็ต้องหันมายัดเครื่องให้เป็นไปตามสเตปการปรับแต่ง   ซึ่งขุมพลังเดิมของอีคาร์นั้นยังไม่พอใจ   ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเครื่อง NA  ที่เคยฝังอยู่ในรถเอนกประสงค์แบบ MPV  ของ MITSUBISHI  SPECWAGON   ที่มีบล็อกเครื่องรหัส  4G63  แบบสี่สูบเรียง ขนาด  2000  ซีซี.  DOHC  16 VALVE ที่มีสมรรถนะในการสร้างแรงม้าออกมาประมาณ  160  ตัวที่ 6,500 รอบ/นาทีกับแรงบิดสูงสุดในการออกตัว 19 กก.-ม. ที่ 4,750  รอบ/นาที   พร้อมกับชุดเกียร์ออโตเมติคแบบ 4 สปีด จึงสะดวกในการใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะขับในเมือง หรือนอกเมือง   



     แต่ถึงจะเป็นเครื่อง NA   แบบเกียร์ออโต้  ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถเร่งความเร็วให้พุ่งไปได้ดังใจ  ดังนั้นจึงได้ปรับแต่งด้วยการติดอินเตอร์คูลเลอร์ของ EVO III  เข้าไป ซึ่งอาจไม่จำเป็น  กับเดินท่ออากาศอลูมิเนียมที่ช่วยให้อากาศไหลลื่น พร้อมกรองอากาศเปลือยที่คบหาของ HERRICAN  แบบตาข่ายสแตนเลส  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของไทยที่ราคาไม่แพง แต่คุณภาพระดับอินเตอร์ เพราะสามารถกรองฝุ่นได้ละเอียดขนาด 7 ไมคอน จึงให้อากาศไหลได้สะดวกและยังทนทานใช้งานได้นาน  



     มาที่ระบบจุดระเบิดได้พึ่งหัวเทียนของ  NGK NO.8  จึงส่งผลให้การจุดระเบิดแม่นยำขึ้น   พร้อมกับติดตั้งสายกราวด์เพื่อมาช่วยกระแสไฟเดินได้สมบูรณ์  และหม้อน้ำเป็นของ EVO III  ที่ระบายความร้อนได้ดี  พร้อมกับสั่งทำเฮดเดอร์ใหม่ในแบบ 4-2-1 และได้เดินท่อไอเสียเป็นแบบสแตนเลสขนาด 2.5 นิ้ว เสริมหม้อพักไส้เกลียว มาช่วยเพิ่มอัตราเร่งในรอบกลาง ซึ่งเหมาะกับรถแบบเกียร์ออโต้ แถมด้วยปลายท่อแบบหม้อพักใบปลายขนาด 3.5 นิ้ว  โดยชุดท่อไอเสียนั้นทำจาก SITT TURBO 
ยกแพหน้า-หลังติดโช้คคายาบ้า
เบรคทั้งหน้า-หลังของ EVO III 


      ในขณะที่ระบบช่วงล่างนั้นได้ยกเอาแพหน้า-หลังของ  EVO  III มาใช้งานด้วย ส่วนโช้คอัพเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวของจากญี่ปุ่น  ซึ่งเป็นของ KAYABA  แบบกระบอกบอร์น ทั้งด้านหน้า-หลัง   โดยปรับระดับสูง-ต่ำได้ตามต้องการ  และที่สำคัญเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้น โดยสปริงจะมีค่า  K  ที่มีความแข็งเพื่อให้สามารถซับแรงสะเทือนได้ดีทั้งขณะวิ่งความเร็วสูง หรือแม้แต่ในการเข้าโค้งก็รองรับได้อย่างดี รวมไปถึงค้ำโช้คที่ติดตั้งทั้งด้านหน้า-หลังเป็นแบบอลูมิเนียมที่มาเสริมบอดี้ให้แข็งแรง  



     ตามมาด้วยระบบเบรกที่ต้องดีกว่าเดิม   ดังนั้นจึงได้ไปเอาของ EVO III  มาใส่ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยด้านหน้ามีจานดิสถ์เบรคขนาดใหญ่ขึ้น ควบคู่กับคาลิเปอร์เบรคที่เป็นแบบข้างละ 2 พอร์ท จัดการพ่นคาลิเปอร์ด้วยสีแดงให้คล้ายแบบแบมโบ   เช่นเดียวกับด้านหลังก็สลับจานดิสถ์เบรคกับคาลิเปอร์เบรคแบบข้างละพอร์ทเดียว  ซึ่งเพียงพอที่จะสั่งให้หยุดได้ตามที่ต้องการ  
พวงมาลัย MOMO กับวัดรอบใหญ่ 
ติดโรลบาร์ SITT ใส่เบาะเรคคาโร่ 


     พอเข้ามาสัมผัสภายในห้องโดยสารดูจะขัดกับขุมพลังความแรง เพราะได้ทำการปรับแต่งในสไตล์รถแข่งเต็มตัว โดยได้ถอดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อเป็นการลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งผู้โดยสาร  กับเบาะนั่งด้านหลัง หรือแม้แต่แผงเพดานยังเอาออก   ยกเว้นคอนโซลหน้าที่เป็นของเดิม  แต่แผงประตูสีดำยืมมาปิดแทน      ส่วนพวงมาลัยเป็นทรงสปอร์ตที่ฮิตกันของ  MOMO   แบบ  3 ก้านหุ้มหนังแท้ดำแบบมีรู  ช่วยให้หมุนได้คล่องมือ  ส่วนบรรดาเกจ์วัดคันนี้ขอแค่ตัวเดียวก็ไม่พอ ซึ่งติดเกจ์วัดรอบตัวใหญ่ของ AUTO METER ที่มาพร้อมกับชิพไลท์สีแดง  ที่สามารถปรับตั้งได้ตามรอบเครื่องเพื่อให้แสดงผล




      ส่วนเบาะนั่งเป็นแบบกึ่ง  BRACKET SEAT   สไตล์รถแข่งแรลลี่ โดยเป็นเบาะของ  RECARO   ที่มาในแบบผ้า ออกแบบให้โอบกระชับรับกับลำตัว  พร้อมกันนั้นได้มีการป้องกันบอดี้ด้วยการติดตั้งโรลบาร์ของ SITT  TURBO   โดยได้เลือกติดแบบ 6 จุด ประกอบด้วยด้านหน้า 2 จุด กลาง 2 จุด และหลัง 2 จุด   จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ เพราะผลิตจากเหล็กกลมแบบกลวงขนาด 1.5 นิ้ว ที่เป็นงานฝีมือดัดเอง พร้อมพ่นด้วยสีเหลืองลูไซส์ ซึ่งให้ทั้งความแข็งแรงและความสวยงามที่ดูแล้วดุดัน ที่สำคัญยังช่วยในการทรงตัวได้ไม่น้อย โดยเฉพาะรถรุ่นเก่าแบบนี้ 





    ถึงจะหล่อแค่บอดี้ในแบบ EVO III  แต่ใครจะรู้ว่าความแรงที่ฝังอยู่ภายใต้ฝากระโปรงนั้น  เป็นเพียงบล็อกเครื่องแบบยูสด์คาร์  เพราะภายในเล่นแต่งซะดุอย่างกับรถแข่งตัวจริง สนใจปรับแต่งรถทุกรุ่นได้ที่สำนักแต่ง  SITT TURBO   แถวถนนพระราม 9